หมัดมายาปีศาจ (幻朧魔皇拳)

เซนต์เซย่า เป็นการ์ตูนที่มีความเป็นปรัชญาอยู่สูงมาก

โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวกับโกล์ดเซนต์เจมินีตั้งแต่ภาคธรรมดาจนถึง Lost Canvas ก็มันจะมีช่วงสอนใจอะไรหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่ก็มันจะเกิดตอนสูญเสียอะไรไปแล้ว

 

สีเทา

คนทุกคนมีส่วนผสมของสีดำและสีขาว

สีเทาของแต่ละคนมันก็ค่าสีของมันค่าเดียว ในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต

 

แต่แม้ว่าค่าสีของมันจะมีค่าเดียว

แต่ละคนก็มองเห็นสีนี้ไม่เหมือนกัน

บางคนมองแล้วดำกว่าความเป็นจริง

บางคนมองแล้วขาวกว่าความเป็นจริง

 

ทั้งหมดขึ้นกับประสบการณ์ ความเชื่อและการตีความของแต่ละคน

คนที่เชื่อว่าสีเทาเป็นสีดำ ก็จะไม่เห็นสีขาว

คนที่เชื่อว่าสีเทาเป็นสีขาว ก็จะไม่เห็นสีดำ

 

และยิ่งถ้าเรามีเพื่อนส่วนใหญ่ที่มีแนวคิดเดียวกัน เราจะยิ่งมั่นใจว่าสีที่เราเห็นนั้นเป็นสีที่จริงแท้แน่นอน

แล้วเราจะทำยังไงดี

จุดเริ่มต้นก็คง อย่าด่วนสรุป

สิ่งถัดมาคือ ต้องหาข้อมูลมือหนึ่งให้ได้

อย่างรูปข้างบน ถ้าเราใช้ Photoshop  เราสามารถหาค่าสีที่เป็นข้อเท็จจริง ว่า สีเทามันค่าเดียวกันได้อย่างง่ายดาย

ถ้าเป็นเรื่องยากๆ ก็คงต้องหา Reference ที่น่าเชื่อถือ หรือเป็นต้นฉบับ

สุดท้าย หาในหลายๆมุมให้มากที่สุด

อ่านและพิจารณาทุกมุมให้รอบคอบ

แล้วคุณจะเห็นสีเทาที่ชัดเจน

สิ่งที่ได้เรียนรู้ในปี 2018

1. วินัย และการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอแม้จะไม่มาก มีผลต่อการพัฒนามากกว่า การอัดซ้อมครั้งเดียวหนักๆ เครียดๆ

นอกเหนือจากความสามารถที่เพิ่มขึ้นแล้ว สิ่งที่จะเพิ่มพร้อมความสามารถคือ ความมั่นใจว่าจำทำได้ สิ่งที่เราได้เห็นหลังจากการซ้อมอะไรก็ตามมันจะเป็นพัฒนาการที่เราสัมผัสได้ มันจะต่อเป็นเส้นทางที่ยาวขึ้นเรื่อยๆ จนเรารู้สึกว่า ระยะไปสู่เป้าหมายมันสั้นลง ยกตัวอย่างเช่น ตัวผมเองรู้ว่ามาราธอนที่โอซาก้าผมจะจบแบบดีๆ ตั้งแต่ตอนซ้อมที่ 32km ที่สวนลุมจบแล้วไม่เจ็บกลับมา ในการทดสอบระบบก็เช่นกัน การเทสก็ไม่ต่างจากการฝึกซ้อม มันควรจะสร้างความมั่นใจให้กับคนทำมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามันเทสผ่านตลอด

2. ข้อเท็จจริงในปัจจุบัน ไม่เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงในอดีตหรืออนาคต รวมถึงการคาดคะเนด้วย Logic ในหัว

ในตอนเราเรียน เราสามารถใช้ Logic ในศาสตร์ที่เรียนมาหาผลลัพธ์ล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องลงมือทำ เช่น เรารู้ว่า 1 + 1 เป็น 2 หรือเรารู้ว่าการแก้ปัญหานี้มันต้องใช้ทฤษฎีโน่นนี่ในการแก้ปัญหา

สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นคือ เรามันจะใช้สิ่งต่างๆเหล่านี้มาเป็น shortcut ในการตัดสินใจกับปัญหาที่ดูเหมือนจะคล้ายกัน แต่โชคร้ายมักจะเกิดขึ้นเสมอตรงที่ ปัญหาที่คล้ายกันนั้นมันมีปัจจัยเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่เหมือนกันเสมอ

มันถึงเกิดวลีอมตะของกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ว่า มันเคยใช้ได้ ยังไงหล่ะครับ

แน่นอนว่าคนที่สามารถคาดคะเนอนาคตได้ ย่อมนำหน้าไปกว่าเขาก้าวนึง

คนที่มีข้อมูลข้อมูลที่เยอะกว่า ก็จะคาดคะเนได้แม่นยำกว่า

แต่ทั้งหมดสุดท้ายจงเผื่อความผิดพลาดไว้ด้วย

 

อีกมุมนึงหลายคนใช้การคาดคะเนเพื่อบอกว่าทางนี้ไม่ดี หลายคนใช้ความรู้เดิมมาตัดสิน วิธีการใหม่ๆ ว่ามันไม่ work ทั้งๆที่ปัจจัยหลายๆอย่างเปลี่ยนไป สุดท้ายมันอาจจะทำให้เราเสียโอกาสก็เป็นได้

ปัญหาทางการเงินของคนอื่นที่เราคิดไม่ถึงว่ามันจะมี

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน  ได้ไปฟัง Talk ของพี่หนุ่ม Moneycoach ที่ King Power  ซึ่งพี่หนุ่มเองก็เป็นคนที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการเงินพื้นฐาน แบบลูกทุ่งนิดๆ กล่าวคือพี่เขาอาจจะไม่ได้จบมาทางการเงินโดยตรง แต่เป็นคนที่ทำจริง เจ็บจริง  แก้ปัญหาทางการเงินให้กับที่บ้านตั้งแต่เป็นหนี้ จนกระทั่งปลดหนี้ได้ และมีเงินเพียงพอต่อความเป็นอยู่ในปัจจุบัน  แกเปิดองค์กรชื่อคนไทยฉลาดการเงินเพื่อจะพยายามให้ความรู้ทางการเงินกับคนไทย  โดยมีพันธมิตรอยาก พี่แท็กบักหนอม พี่เอ Academy   ฯลฯ

เนื้อหามาในธีม 4.0 Revolution   การเงินมีปัญหาถึงเวลาต้องปฏิวัติ ฟังดูแล้ว รวมถึงชุดประกอบฉากของพี่แก บางทีก็กลัวจะโดนหิ้วจริงๆ

วันนี้จะมาเล่าเรื่องบางเรื่องใน Talk ครั้งนี้ที่บางครั้งเราก็ไม่รู้หรอกครับว่า มันมีเหตุการณ์แบบนี้ เพราะว่าทั่วไป เราอาจจะมีสิ่งที่เรียกว่า สมมติฐานเบื้องต้น ที่แตกต่างกัน ทั้งจากสภาพแวดล้อม  ความรู้ทางการเงินที่มี 

BNK48 1st Concert “STARTO”

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ไปดู Concert ของ BNK48 ที่ Bitec มา เลยอยากมาแชร์กันสักหน่อย

วันที่ไปจะเป็นวันแรก  เริ่มตอน 6 โมงเย็น  เราไปถึง 17:59  เข้าไปนั่งได้แปร็บเดียวคอนเสิร์ตก็เริ่มพอดี  โดยมีการเกริ่นนำจากเจนนิส  (ในคอนเสิร์ตหรือเธียเตอร์ก่อนที่วงจะแสดง จะมีการเกริ่นนำก่อนเสมอ) สักพักหนึ่งก็เริ่มคอนเสิร์ตได้

บรรยากาศในคอนเสิร์ตถือว่างานดีมาก  ทั้งเวทีที่ยืนมาหาคนดูมี Hydrolic ตรงกลาง  Theme ที่แสดงอยู่ในจอในการปรับเปลี่ยนฉากของแต่ละช่วงของการแสดง  ถือว่าพอจะลบคำบ่นจากฝูงชนในเรื่องคุณภาพงานได้อยู่

ส่วนเหตุการณ์ที่น่าสนใจที่น่าจะเล่าได้ ก็อย่างการแสดง Namida Surprise ที่เปิดตัวเป็นภาษาไทยเป็นครั้งแรก พร้อมกับการลากแก้วเข้ามาอวยพรวันเกิด กลางเวที ก็ถือเป็นช็อตที่น่ารักดี   แก้วถึงกับบ่นว่ายังซับหน้าไม่เสร็จเลยก็ลากออกมาแล้ว

พลังใจและ365วันกับเครื่องบินกระดาษ

365วันกับเครื่องบินกระดาษ เป็นเพลงใน single  แรกของ Bnk48  ซึ่งมาจากเพลง 365日の紙飛行機 ซึ่งอยู่ใน single ที่ 42  โดยเป็นเพลงประกอบซีรีย์ญี่ปุ่น เรื่อง あさが来た  ของช่อง NHK ซึ่งเป็นเรื่องราวของผู้หญิงสู้ชีวิตชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ Asako Hirooka ซึ่งเป็นนักธุรกิจหญิงและนักการศึกษาที่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยหญิงแห่งแรกของญี่ปุ่น  ตัวเพลงสะท้อนการต่อสู้และก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ในยุคที่สังคมกดขี่ผู้หญิง

เนื้อหาหลักของเพลง ก็อนุมานชีวิตเหมือนเครื่องบินกระดาษที่ขอให้มีจุดมุ่งหมายและความมั่นใจ แม้ว่าจะมีอุปสรรคในการไปหาเส้นทางที่ควรจะเป็นบ้าง แต่ในที่สุดด้วยความเชื่อมั่น ความพยายาม ความตั้งใจ และความรัก สักวันเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ก็จะเป็นจริง

เพลงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์ ของ AKB48 ในช่วงปลายปี 2015 – 2016  เช่น

• เพลงในงานแต่งงานที่เปิดบ่อยในปี 2016
• เพลงที่เป็นที่น่าจดจำในปี 2015  โดยกลุ่มคนอายุ 10-60 ปี
• The 88th Drama Song Awards
• Excellent Work Awards จาก Japan Record Awards ครั้งที่ 58
• 11th Taiga Music Award

จากนี้ไปจะเป็นเรื่องราว 2 เรื่องที่มีการนำเพลงนี้ไปใช้ในการสร้างพลังใจ

ผ้าขนหนู 100 เยนกับเทคนิคการขายแบบคลาสสิก

เมื่อเดือนที่แล้วตัวผมเองได้ไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นมา เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูหนาวซึ่งจะมีงานแสดง Light-up มากมายตามจุดต่างๆในญี่ปุ่น  ผมเลยถือโอกาสไปงาน Light Up ที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในญี่ปุ่นนั่นคือ Nabana no Sato ที่จังหวังมิเอะ  แต่แม้ว่าจะบอกว่าอยู่จังหวัดมิเอะ แต่วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือการไปที่สถานีนาโงย่าแล้วต่อรถบัสประมาณ 30 กว่านาทีเท่านั้นก็ถึงแล้ว

เมื่อไปถึงเราก็เดินชมงานตั้งแต่ไฟยันไม่เปิดจนถึงค่ำ  ซึ่งโดยรวมก็เป็นงานที่เห็นถึงมาตรฐานและรายละเอียดต่างๆเล็กๆน้อยๆ ของคนในประเทศนี้  สมกับที่หลายคนบอกว่านี่คืองาน Light Up ที่ดีที่สุดที่หนึ่งของญี่ปุ่น

ในระหว่างนั้นเองผมก็ได้เจอกับ บริเวณน้ำร้อนแช่เท้า ซึ่งแน่นอนว่าอากาศหนาวๆ เราก็น่าจะไปแช่สักหน่อยเพราะอากาศแถวนั้นมัน น่าจะระดับเลขตัวเดียว  ซึ่งสถานที่ก็ไม่ใหญ่มาก เป็นหินให้เราถอดรองเท้าแล้วก็หย่อนขาไปได้เลย อุ่นสบายแน่นอน

Browser’s Unsafe Ports

พอดีวันนี้ให้รุ่นน้องทดสอบ Web Application ตัวนึง แล้วเจอปัญหา  Unsafe Port  ซึ่งไม่เคยเจอมาก่อนเลยจดบันทึกไว้เผื่อต้องใช้ต่อ

ในการพัฒนา Web Application นั้นในบางคร้ังเราจำเป็นที่จะต้องใช้  Port พิเศษในการเปิด app มาเทส เป็นการส่วนตัว เช่น 8080 4000 3000  เป็นต้น  แต่ในบางเบราว์เซอร์นั้น บาง port จะอยู่ในรายการที่ไม่สามารถใช้งานได้ซึ่งแม้ว่าจะ Access ได้ก็ตาม เบราว์เซอร์จะยกเลิกการเชื่อมต่อแล้วแสดง error  ออกมาให้กับเราแทน  เช่น  Chrome จะแสดงคำว่า net::ERR_UNSAFE_PORT    ขณะที่ Firefox จะแสดงคำว่า Restricted Port  เป็นต้น

ซึ่ง Port ที่ถูกระบุไว้ว่าเป็น Unsafe Port นั้น  ไม่ได้หมายความว่า  ถ้าเบราว์เซอร์ไปใช้งาน port พวกนี้จะไม่ปลอดภัย  แต่มันเป็นการป้องกันไม่ใช้เราไปโจมตี port พวกนี้ทั้งที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจมากกว่าซึ่ง port เหล่านั้น พูดระบุไว้ใน Source Code  หรือ Document ของแต่ละบราว์เซอร์ไว้ครับ

บางแสน42/2017 การเผชิญหน้าแล้วก้าวข้ามความสิ้นหวัง

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า  ในมาราธอนนั้นเส้นทางที่เราผ่านมาจนถึงเส้นชัยนั้นสำคัญกว่าการเข้าเส้นชัย ดูเป็นกล่าวที่ดูเป็นนิยายสักหน่อย แต่ถ้าคุณได้ผ่านประสบการณ์การวิ่งมาราธอนสักครั้งในชีวิต คงจะเริ่มที่จะเข้าใจมันได้  และยิ่งถ้าคุณได้ผ่านการเข้าเส้นชัยในสภาพที่เหลือแต่ใจที่จะพาร่างที่ถึงขีดจำกัดแล้ว  นั่นจะยิ่งทำให้เราเข้าใจมันอย่างดี

ก่อนที่จะเล่าเรื่องนั้น ขอเตือนไว้ก่อนครับ

การวิ่งมาราธอน 42.195 กิโล  หลังจากวิ่งสภาพร่างกายจะช้ำหนักมาก ไม่อยากให้มองว่ามันเป็นการวิ่งเพื่อสุขภาพสักเท่าไหร่   ใครก็ตามที่จะลงขอให้ฝึกซ้อมและทำความเข้าใจกับขีดจำกัดของร่างกายของตัวเองเพื่อให้รู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะหยุด    เพราะมันคือการเดิมพันกับร่างกายของเราด้วย

จุดเริ่มต้น

ผมมีเป้าหมายในปี 2017 ว่าจะจบมาราธอนแรกให้ได้ในปีนี้  หลังจากที่วิ่งออกกำลังมานาน แล้วพึ่งมาลองลงแข่งไม่นานโดยผ่าน 10km มา 3 ครั้ง   Half  อีก 2 ครั้ง   ตอนแรกก็แอบคาดหวังงานวิ่งที่ญี่ปุ่นอย่างโตเกียวหรือโอซาก้ามาราธอนไว้เนื่องจากว่าอากาศเย็น อีกทั้งยังเริ่มวิ่งเวลา 9 โมง ซึ่งไม่ต้องตื่นตีหนึ่งตึสอง  แต่ก็จับฉลากไม่ได้    สุดท้ายอยู่ๆก็มีประกาศงานเปิดตัว บางแสน42 ขึ้นมา ซึ่งทางเพื่อนๆที่วิ่งก็ดูให้เครดิตดีจากภาพของงานวิ่งบางแสน21  ก็เลยตัดสินใจสมัครไปเลย

สรุปผลการซ้อมวิ่งระหว่างวันที่ 21-27 สิงหาคม 2560

วิ่งไป 42.6 km

• Zone 2  with Metronome  (184spm)
• Interval 400*200 x 10
• LSD 25km  หรือ  3:30

 

ผลการซ้อม

• สัปดาห์นี้คุม Cadence  ได้ดี จากการที่อยู่กับ Metronome ไป 1 วัน
• Interval ช่วงวิ่ง  ได้ที่ประมาณ 4:30 แล้ว   น่าจะต้องเสริมเพื่อให้มั่นใจว่าจะนิ่ง ที่ Pace 4:30
• LSD คุม Heartrate ได้ตามเป้า  แต่ค่อนข้างปวดขาโดยเฉพาะข้อพับ  ดังนั้นควรไปลองยืดหรือเพิ่มความแข็งแรงด้วย

สัปดาห์หน้า

• น่าจะเพิ่ม Aerobic ต้น Zone 3  สั่นๆ ไปรอบนึง
• น่าลอง Interval 1k  พัก 3 นาที  ที่ Pace 5 ไป 5 รอบ  หรือ
• Tempo ที่ Pace 53  50 นาที
• ระยะ LSD อยู่ที่ 25 เท่าเดิม
• เพิ่ม Strength Training  ไปที่วันอังคารก่อน